ทำไมต้องมีประกันสุขภาพและโรคร้ายแรงคู่กัน

ประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง

คยสงสัยไหมครับว่าประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรงแตกต่างกันอย่างไร จำเป็นไหมที่ต้องมีทั้งประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรงทั้งสอง เรามาดูเคสตัวอย่างที่เรายกมาเปรียบเทียบกันครับ

นาย A มีประกันสุขภาพอย่างเดียว ส่วน นาย B มีทั้งประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรง กรณีที่ทั้งสองป่วยเป็นโรคร้ายแรงโดยไม่คาดคิดจะได้รับการคุ้มครองแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

1.) ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่จะได้รับ

• นาย A ประกันสุขภาพที่ช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นให้ตามวงเงินการคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์โดยบริษัทประกันจะจ่ายค่ารักษาโดยตรงให้กับทางโรงพยาบาล 

• เช่นเดียวกับนาย B ที่ไม่ต้องห่วงเรื่องค่ารักษาเพราะมีประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรงคุ้มครอง แต่จะต่างกันตรงที่นาย B จะมีวงเงินความคุ้มครองที่สูงกว่าเพราะมีประกันสองฉบับ จึงสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นได้ และมีเงินพอรองรับหากการรักษาตัวกินเวลานาน หรือกลับมาเป็นซ้ำ

2.) ความครอบคลุมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือจากค่ารักษาพยาบาล

การเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรงย่อมตามมาด้วยค่าใช้จ่ายอื่นมากมายที่เราอาจนึกไม่ถึง เช่น การกลับมารักษาตัวที่บ้านที่อาจต้องจ้างพยาบาลส่วนตัวหรือคนดูแล ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์หรืออุปกรณ์เสริมที่จำเป็น รวมถึงค่าใช้จ่ายในบ้าน หรือภาระหนี้สินอื่นที่เรายังต้องรับผิดชอบต่อไป

• นาย A จำเป็นต้องนำเงินเก็บมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะประกันสุขภาพจะคุ้มครองเฉพาะค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น

• นาย B สามารถนำเงินก้อนที่ได้รับจากประกันโรคร้ายแรงมาใช้บริหารจัดการค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นได้ จึงไม่กระทบเงินเก็บ

เราจะเห็นได้ว่าการมีประกันโรคร้ายแรงติดไว้อีกฉบับนั้นมีข้อดีหลายอย่าง คือ ช่วยให้ครอบคลุมค่ารักษาได้มากขึ้น เพราะโรคร้ายแรงมีค่าใช้จ่ายสูง,  มีการจ่ายผลประโยชน์เป็นเงินก้อนตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญา จึงสามารถนำเงินก้อนนี้ไปลดภาระค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากค่ารักษาพยาบาลได้ เช่น ค่าผ่อนบ้าน , ค่าผ่อนรถ , ค่าเทอมลูก , ค่าบัตรเครดิต เป็นต้น ทำให้ชีวิตสามารถเดินหน้าต่อได้ ไม่สร้างภาระให้ครอบครัว ทั้งยังจ่ายเบี้ยไม่แพงเมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับ การมีประกันโรคร้ายแรงติดไว้อีกสักฉบับจึงสามารถช่วยคุณปิดความเสี่ยงได้อย่างรอบด้าน

โรคร้ายแรงนั้น ไม่เลือกวัย ไม่เลือกเวลา อายุน้อยก็เสี่ยงได้ และอาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด เพราะฉะนั้นการมีประกันสุขภาพติดตัวไว้จึงเป็นเรื่องที่ดี แต่จะดียิ่งขึ้นและอุ่นใจได้มากขึ้นหากมี ประกันสุขภาพ และ ประกันโรคร้ายแรง คู่กัน เพื่อให้ครอบคลุมทุกค่าใช้จ่าย​ได้อย่างหมดห่วง เบาใจเรื่องค่าใช้จ่าย ไม่เป็นภาระครอบครัว แม้ป่วยโรคร้ายก็มีกำลังใจที่จะสู้ต่อและรักษาตัวได้อย่างเต็มที่ครับ

ที่มา : https://www.aia.co.th/th/health-wellness/content-hub/good-health/why-you-need-both-medical-and-critical-illness-insurance

Scroll to Top