ยามุ่งเป้า “Targeted Therapy” นวัตกรรมแห่งความหวังของผู้ป่วยโรคมะเร็ง

ยามุ่งเป้า “Targeted Therapy” นวัตกรรมแห่งความหวังของผู้ป่วยโรคมะเร็ง

โดยจากสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติพบผู้ป่วยโรคมะเร็งรายใหม่ถึงวันละ 381 คน หรือรวมแล้วมีจำนวน 139,206 คนต่อปี และในปีเดียวกันนั้นเองมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งสูงถึง 84,073 คน*

ถึงแม้ทุกวันนี้การเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งจะมีแนวทางการรักษาที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาเคมีบำบัด การผ่าตัด หรือการฉายแสง ทว่าผลข้างเคียงของการรักษาในแต่ละครั้งนั้นกลับทำให้ผู้ป่วยบางรายไม่สามารถรับการรักษาได้ต่อเนื่องอย่างที่ควรจะเป็น

ส่งผลให้โอกาสในการหายขาดจากโรคมะเร็งนั้นลดลงไปทุกที หรือแย่ไปกว่านั้น บางรายอาจถึงขั้นไม่ตอบสนองต่อการรักษา มีอาการดื้อยา จนทำให้ดูเหมือนว่าไร้หนทางในการรักษาต่อ

แต่ความหวังยังไม่หมดไป เพราะในปัจจุบันวงการแพทย์ได้ค้นพบนวัตกรรมใหม่ที่เป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งอีกวิธีหนึ่ง นั่นก็คือ ยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) หรือการรักษาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง ที่เป็นการนำตัวยาเข้าไปยับยั้งการเจริญเติบโตและการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งได้อย่างตรงจุด จะช่วยลดความเสี่ยงต่อความเสียหายของอวัยวะที่ยังปกติเมื่อเทียบกับผลกระทบจากการฉายเสียง และยังมีผลข้างเคียงที่น้อยกว่าการใช้ยาเคมีบำบัดแบบเดิม

ซึ่งการรักษาแบบ Targeted Therapy มีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ

แบบแรก คือ การใช้ยาที่มีโมเลกุลเล็ก เพื่อเจาะเข้าถึงเซลล์มะเร็ง และป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งสามารถเพิ่มจำนวนได้

ในขณะที่แบบที่สอง คือ การใช้ยาที่มีโมเลกุลใหญ่ ที่มักจะมาในรูปแบบการฉีดตัวยาเข้าไปโจมตีผนังเซลล์มะเร็งให้อ่อนแอลง และพร้อมเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งได้ง่ายขึ้น

จะเห็นได้ว่าการรักษาด้วยยามุ่งเป้านั้นจะพุ่งไปที่การทำลายเฉพาะเซลล์มะเร็งโดยตรง เพื่อช่วยลดความเสียหายของเซลล์ที่ดีในร่างกาย รวมไปถึงช่วยลดผลข้างเคียงที่ทำให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งทุกข์ทรมานจนต้องเว้นช่วงการรักษาไปนาน ๆ เพราะร่างกายทรุดลงจนรับไม่ไหว หรือแม้กระทั่งต้องหยุดการรักษาไป

อย่างไรก็ตาม ถึงวงการแพทย์จะมีหนทางใหม่ที่เป็นความหวังในการรักษาโรคมะเร็งอย่างยามุ่งเป้าแล้วก็ตาม แต่อุปสรรคที่สำคัญของผู้ป่วยนั้นกลับไม่ได้มีเพียงแค่ความพร้อมของร่างกาย หรือ การตอบสนองที่ดีในการรักษาโรค เพราะยังรวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคมะเร็งที่เป็นสาเหตุหลักในการทำให้ทางเลือกของผู้ป่วยต้องลดลงไป เมื่อลองดูที่ตัวเลขค่าใช้จ่ายของโรคมะเร็ง 3 อันดับแรกที่มีคนไทยเป็นมากที่สุด ได้แก่ โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งตับ และโรคมะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ โดยอ้างอิงจากข้อมูลค่ารักษาพยาบาลเฉลี่ยต่อการรักษาครั้งใดครั้งหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชน จากฐานข้อมูลการเคลมสินไหมประกันสุขภาพลูกค้าเอไอเอ ประเทศไทย ปี 2565 พบว่าผู้ป่วยจำเป็นต้องมีเงินเฉลี่ยก้อนแรก 2-3 แสนบาท เพื่อให้สามารถเข้าถึงการรักษาด้วยการผ่าตัดในโรงพยาบาลเอกชนได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงค่าใช้จ่ายในส่วนของการฉายแสงอีก 3-8 แสนบาท

และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา อาจมีความจำเป็นต้องรักษาด้วยยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) และยาภูมิคุ้มกันบำบัด ซึ่งเทคโนโลยีการรักษาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีค่าใช้จ่ายสูง และอาจไม่ครอบคลุมด้วยสวัสดิการของรัฐ โดยอาจมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยถึงปีละ 3 ล้านบาท* อีกทั้งยังอาจต้องรักษาต่อเนื่องนานหลายปี

จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากเจอกับกำแพงในการรักษา ไม่ว่าจะเป็นในด้านใช้จ่ายที่สูงขึ้นเพราะตัวยาเฉพาะ หรือ วิธีการรักษาบางอย่างที่ไม่ครอบคลุมอยู่ในสวัสดิการรัฐ และนั่นอาจหมายถึงหนึ่งชีวิตของผู้ป่วยโรคมะเร็งต้องพลาดโอกาสที่จะได้รับการรักษาที่ดีที่สุดไป

AIA Health Happy ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย ที่นอกจากจะจ่ายผลประโยชน์เพิ่มเป็น 2 เท่าเมื่อตรวจพบโรคมะเร็งหรือโรคร้ายแรงอื่น ๆ และยังครอบคลุมการรักษาโรคมะเร็งด้วยยามุ่งเป้าอีกด้วย

AIA Health Happy ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย มาพร้อมกับความคุ้มครองที่มีให้เลือกถึง 4 แผน เพื่อมอบผลประโยชน์ที่คุ้มค่า และ คุ้มครองได้ครอบคลุมความต้องการของแต่ละบุคคลอย่างเหมาะสมที่สุด

● แผนที่ 1 : คุ้มครอง 1 ล้านบาทต่อรอบปีกรมธรรม์ หากป่วยเป็นโรคร้ายแรง เอไอเอ เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยเป็น 2 ล้านบาท คุ้มครองค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน (IPD) วันละ 1,500 บาท

● แผนที่ 2 : คุ้มครอง 5 ล้านบาทต่อรอบปีกรมธรรม์ หากป่วยเป็นโรคร้ายแรง เอไอเอ เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยเป็น 10 ล้านบาท คุ้มครองค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน (IPD) วันละ 3,000 บาท

● แผนที่ 3 : คุ้มครอง 15 ล้านบาทต่อรอบปีกรมธรรม์ หากป่วยเป็นโรคร้ายแรง เอไอเอ เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยเป็น 30 ล้านบาท คุ้มครองค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน (IPD) วันละ 6,000 บาท

● แผนที่ 4 : คุ้มครอง 25 ล้านบาทต่อรอบปีกรมธรรม์ หากป่วยเป็นโรคร้ายแรง เอไอเอ เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัย 50 ล้านบาท คุ้มครองค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน (IPD) วันละ 9,000 บาท พร้อมความคุ้มครองในกรณีรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD) 2,000 บาทต่อครั้ง สูงสุด 30 ครั้งต่อรอบปีกรมธรรม์ และสามารถรับบริการจัดการดูแลผู้ป่วยรายบุคคล (Personal Medical Case Management) จาก Teladoc Health พันธมิตรชั้นนำระดับโลกของเอไอเอ เพื่อยกระดับการดูแลอาการป่วยของคุณแบบ Exclusive

หากดูจากค่ารักษาพยาบาลที่นำมาเปรียบเทียบให้เห็นในตารางแล้ว จะสังเกตุได้ว่าประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย AIA Health Happy จ่ายให้ครบครอบคลุม ให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ ไร้กังวล ถึงแม้จะตรวจพบโรคร้ายแรง

Scroll to Top